การป้องกันตนเองจากคดีหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ควรทำอย่างไร

นักธุรกิจควรมีความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งในการวางแผนและจัดทำเนื้อหาโฆษณาให้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์และปลอดภัยจากการถูกฟ้องร้อง โดยขั้นตอนการป้องกันอาจเริ่มต้นจาก

  1. ศึกษากฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
    ควรศึกษาข้อกำหนดทางกฎหมายเกี่ยวกับโฆษณาและการหมิ่นประมาท เพื่อให้เข้าใจถึงขอบเขตที่ควรปฏิบัติตามและข้อจำกัดในการวิพากษ์วิจารณ์หรือเปรียบเทียบคู่แข่ง
  1. ใช้ภาษาที่เป็นกลางและไม่กล่าวหาหรือวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบ
    นื้อหาควรเป็นการเน้นถึงคุณสมบัติหรือจุดแข็งของสินค้าหรือบริการของตนเองมากกว่าการโจมตีหรือดูหมิ่นสินค้าของคู่แข่ง
  1. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายโฆษณา
    การขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้คุณสามารถป้องกันความเสี่ยงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ต้องการใช้เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับคู่แข่ง
  1. ควบคุมคุณภาพเนื้อหาที่เผยแพร่
    ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเนื้อหานั้นไม่มีความหมายที่สามารถตีความได้ว่าเป็นการโจมตีหรือทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง และตรวจสอบข้อมูลเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้องและมีการรับรองอย่างเป็นทางการ

ข้อควรระวังในเรื่องหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

  1. หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อหรือภาพลักษณ์ของบุคคลหรือองค์กรอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
    หากต้องการใช้ชื่อคู่แข่ง ควรใช้เฉพาะในกรณีที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการและเป็นการเปรียบเทียบในทางสร้างสรรค์
  2. หลีกเลี่ยงคำพูดที่อาจตีความว่าเป็นการกล่าวหา
    การใช้คำที่เป็นกลางเป็นสิ่งสำคัญ คำพูดหรือวลีที่มีลักษณะดูหมิ่น เช่น “ไม่ปลอดภัย” หรือ
    “คุณภาพต่ำ” อาจทำให้ผู้ฟังหรือผู้อ่านเข้าใจผิดได้
  3. ไม่ทำการเปรียบเทียบที่เกินจริง
    ควรหลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบที่อาจทำให้เข้าใจผิด หรือที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าถูกต้อง

โทษทางกฎหมายสำหรับคดีหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

   โทษทางกฎหมายสำหรับการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณานั้นแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ แต่โดยทั่วไปแล้ว การหมิ่นประมาทอาจทำให้ผู้ที่กระทำผิดต้องเผชิญกับการชดใช้ค่าเสียหายในทางแพ่ง หรือในบางกรณีอาจมีโทษทางอาญา โทษทางแพ่งมักจะรวมถึงการชดเชยค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหาย เช่น การชดเชยค่าเสียหายจากการสูญเสียรายได้หรือความเสียหายต่อชื่อเสียง ในขณะที่โทษทางอาญาอาจรวมถึงการปรับหรือจำคุกในกรณีที่มีการเผยแพร่เนื้อหาที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อชื่อเสียงในวงกว้าง เช่น โฆษณาที่เผยแพร่ในสื่อหลักที่มีผู้รับชมจำนวนมาก ซึ่งเป็นโทษที่มีความรุนแรงเพื่อป้องปรามการละเมิดสิทธิของผู้อื่น

การทำโฆษณาในโลกธุรกิจนั้นจำเป็นต้องมีการวางแผนและใช้ความระมัดระวังในการสร้างสรรค์เนื้อหาเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าข่ายหมิ่นประมาท ซึ่งอาจนำไปสู่คดีความทางกฎหมาย นักธุรกิจควรศึกษาและปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการโฆษณาอย่างเคร่งครัด รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคำที่มีลักษณะเป็นการโจมตีหรือสร้างความเข้าใจผิดให้แก่ผู้บริโภค การทำโฆษณาอย่างสร้างสรรค์และเคารพสิทธิของคู่แข่งจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ธุรกิจ และหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น

ติดต่อสำนักงานกฎหมายสรศักย์และที่ปรึกษาสากล

สำนักงานทนายความสรศักย์ ได้เปิดให้บริการด้านกฎหมายมาตั้งแต่ พ.ศ. 2546 อีกทั้งยังมีประสบการณ์และได้รับความเชื่อถือการให้บริการด้านกฎหมายของประเทศไทย ซึ่งมีการให้บริการ ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เรามีการบริการทางด้านกฎหมายหลายด้านให้แก่ลูกค้าและครบวงจร (One Stop Legal Sevice) โดยทางเราให้บริการช่วยเหลือธุรกิจของท่าน ในด้านรับจดทะเบียนบริษัท เช่น การจดทะเบียนบริษัท, การจดทะเบียนนิติบุคคล, หรือ การขออนุญาตประกอบกิจการ

อีกทั้ง สำนักงานทนายความสรศักย์ เป็นที่ปรึกษากฎหมายธุรกิจชั้นนำที่ให้บริการด้านเอกสารบริษัทอย่างครบวงจรและครอบคลุมทุกมิติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการลงทะเบียนบริษัท การจัดการกฎหมายภายในองค์กร การแก้ไขข้อพิพาท และการป้องกันปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นกับธุรกิจ ด้วยทีมทนายความมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญทั้งในด้านกฎหมายแพ่งและกฎหมายคดีอาญา สำนักงานทนายความสรศักย์ พร้อมให้คำปรึกษา และการสนับสนุนทางกฎหมายอย่างเต็มรูปแบบเพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตและเฟื่องฟูอย่างยั่งยืน เรามีความพร้อม ความมุ่งมั่น ในการบริการด้านกฎหมายของประเทศไทย แก่ลูกค้าทุกคนโดยมืออาชีพ

ติดต่อที่ปรึกษากฎหมาย

บริษัท สำนักงานกฎหมายสรศักย์และที่ปรึกษาสากล จำกัด 49/78 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 40 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 10700

โทร : 081-692-2428, 094-879-5865
Facebook : บริษัท สำนักงานกฎหมายสรศักย์และที่ปรึกษาสากล จำกัด
Website : https://sorasaklaw.com/