ปัจจุบัน การหลอกลวงโอนเงินหรือการฉ้อโกงทางการเงินในรูปแบบต่าง ๆ กลายเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน ช่วยให้มิจฉาชีพสามารถใช้งานเครื่องมือออนไลน์ในการหลอกลวงและเข้าถึงเหยื่อได้ง่ายขึ้น โดยเหยื่อที่ถูกหลอกให้โอนเงินไปบัญชีปลอมมักเป็นกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปที่ไม่ได้ตระหนักถึงวิธีการของมิจฉาชีพเหล่านี้อย่างลึกซึ้ง หลายคนสงสัยว่า หากตกเป็นเหยื่อการหลอกโอนเงิน แล้วไปแจ้งความเพื่ออายัดบัญชี จะได้เงินคืนไหม? บทความนี้จะอธิบายถึงลักษณะการฉ้อโกงทางการเงิน แนวทางการรับมือเมื่อตกเป็นเหยื่อ และข้อมูลกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยป้องกันการสูญเสีย
1. มิจฉาชีพกับการหลอกโอนเงิน

การหลอกโอนเงินจากมิจฉาชีพนั้นมีหลายวิธีการ เช่น การแอบอ้างเป็นบุคคลสำคัญ การสร้างสถานการณ์เร่งด่วนให้ผู้เสียหายตกใจ หรือการส่งข้อความหลอกให้ผู้เสียหายรีบโอนเงิน เป็นต้น นอกจากนี้ การหลอกลวงแบบที่พบเห็นบ่อย ๆ อาจมีรูปแบบอื่น ๆ เช่น
- การหลอกลวงผ่านโทรศัพท์และข้อความ : มิจฉาชีพจะส่งข้อความหรือโทรหาเหยื่อโดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ พนักงานธนาคาร หรือองค์กรอื่น ๆ แล้วแจ้งข้อมูลเท็จเพื่อให้ผู้เสียหายรีบโอนเงิน เช่น การแจ้งว่าเหยื่อมีคดีความและต้องโอนเงินเพื่อป้องกันการถูกดำเนินคดี
- การปลอมแปลงเอกสารและเว็บไซต์ : มิจฉาชีพอาจปลอมแปลงเอกสารหรือเว็บไซต์ที่ดูคล้ายกับหน่วยงานหรือธนาคารเพื่อทำให้เหยื่อเข้าใจผิดและทำการโอนเงินไปยังบัญชีของมิจฉาชีพ
- การหลอกลวงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ : อีกช่องทางที่พบเห็นบ่อยคือการติดต่อกับเหยื่อผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น การแชทในเฟซบุ๊กหรือไลน์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและหลอกให้เหยื่อโอนเงิน
การหลอกโอนเงินในลักษณะนี้มีความซับซ้อนและยากต่อการติดตาม เนื่องจากมิจฉาชีพจะโอนเงินจากบัญชีหนึ่งไปยังบัญชีอื่นหลายต่อเพื่อลบเส้นทางการเงิน อย่างไรก็ตาม การแจ้งความและอายัดบัญชีของผู้รับโอนเป็นขั้นตอนสำคัญที่อาจช่วยให้เจ้าหน้าที่สืบสวนและตามรอยบัญชีของมิจฉาชีพได้ในบางกรณี
2. หากโดนหลอกโอนเงิน ควรทำอย่างไร

เมื่อรู้ตัวว่าตกเป็นเหยื่อการหลอกโอนเงิน ควรปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อเพิ่มโอกาสในการติดตามเงินคืนและป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม
2.1 ติดต่อธนาคารทันที
เมื่อตระหนักว่าเงินถูกโอนไปยังบัญชีของมิจฉาชีพ สิ่งแรกที่ควรทำคือการติดต่อธนาคารของตนเองและธนาคารของบัญชีปลายทางที่โอนเงินไป เพื่อแจ้งให้ทราบถึงเหตุการณ์และขอให้ดำเนินการอายัดบัญชีปลายทางชั่วคราว ธนาคารจะต้องทำการตรวจสอบว่าบัญชีที่รับเงินนั้นยังคงมีเงินเหลืออยู่หรือไม่ และถ้าพบว่าเงินยังไม่ถูกโอนไปบัญชีอื่น ทางธนาคารสามารถระงับการถอนเงินได้
2.2 แจ้งความกับตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
การแจ้งความเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินการติดตามคดี เพราะเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีและสืบสวนต่อไป โดยควรนำหลักฐานการโอนเงิน บันทึกการสนทนากับผู้ต้องสงสัย และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องไปยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ การแจ้งความนี้ยังสามารถทำได้ผ่าน ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือแจ้งกับหน่วยงานเฉพาะที่รับผิดชอบเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์อีกด้วย
2.3 ติดตามสถานะคดีกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เมื่อติดต่อตำรวจและธนาคารแล้ว ควรติดตามสถานะคดีอย่างใกล้ชิด รวมถึงเก็บข้อมูลและหลักฐานเพิ่มเติมที่อาจเป็นประโยชน์ในภายหลัง ในบางกรณี เจ้าหน้าที่จะสามารถสืบสวนและติดตามเงินคืนได้หากมีข้อมูลเพียงพอ
3. กฎหมายกับการคุ้มครองหากโดนหลอกโอนเงิน

กฎหมายในประเทศไทยมีบทบัญญัติที่ช่วยคุ้มครองผู้เสียหายจากการถูกหลอกโอนเงิน โดยปัจจุบันได้มีการกำหนดแนวทางปฏิบัติและบทลงโทษทางกฎหมายเพื่อเอาผิดมิจฉาชีพ รวมถึงมาตรการคุ้มครองผู้เสียหายจากธนาคาร
3.1 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560
กฎหมายนี้ระบุว่า การกระทำใด ๆ ที่มีการหลอกลวงหรือนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่มีข้อมูลเท็จและอันเป็นเท็จ ถือเป็นความผิด โดยมีบทลงโทษทางอาญาสำหรับผู้กระทำความผิดซึ่งอาจถูกจำคุกหรือปรับตามความรุนแรงของการกระทำ
3.2 กฎหมายเกี่ยวกับการฟอกเงินและอายัดบัญชี
กรณีที่มีการแจ้งความพร้อมทั้งหลักฐานเกี่ยวกับการถูกหลอกโอนเงิน เจ้าหน้าที่ธนาคารสามารถขอความร่วมมือในการอายัดบัญชีของผู้รับโอนเพื่อป้องกันการยักย้ายถ่ายเทเงิน อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของการอายัดและการคืนเงินนั้นขึ้นอยู่กับว่าเงินยังคงอยู่ในบัญชีปลายทางหรือไม่
3.3 บทบาทของธนาคารและมาตรการคุ้มครองผู้เสียหาย
ธนาคารในประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการป้องกันและควบคุมการฉ้อโกงทางการเงิน โดยหลายธนาคารมีนโยบายที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยแก่ลูกค้า เช่น ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการโอนเงินจำนวนมาก หรือการตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมที่อาจเป็นอันตราย ธนาคารยังต้องรายงานธุรกรรมที่น่าสงสัยต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้ดำเนินการสืบสวนกรณีที่พบธุรกรรมผิดปกติ
การโดนหลอกโอนเงินเป็นสถานการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน หากเกิดขึ้นแล้วควรรีบดำเนินการตามขั้นตอนที่กล่าวมาเพื่อเพิ่มโอกาสในการคืนเงินและป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม กฎหมายและธนาคารมีมาตรการช่วยคุ้มครองผู้เสียหายจากการฉ้อโกงทางการเงิน อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการเรียกเงินคืนยังคงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งสถานการณ์การโอนเงิน ความรวดเร็วในการแจ้งเหตุ และมาตรการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ติดต่อสำนักงานกฎหมายสรศักย์และที่ปรึกษาสากล

สำนักงานทนายความสรศักย์ ได้เปิดให้บริการด้านกฎหมายมาตั้งแต่ พ.ศ. 2546 อีกทั้งยังมีประสบการณ์และได้รับความเชื่อถือการให้บริการด้านกฎหมายของประเทศไทย ซึ่งมีการให้บริการ ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เรามีการบริการทางด้านกฎหมายหลายด้านให้แก่ลูกค้าและครบวงจร (One Stop Legal Sevice) โดยทางเราให้บริการช่วยเหลือธุรกิจของท่าน ในด้านรับจดทะเบียนบริษัท เช่น การจดทะเบียนบริษัท, การจดทะเบียนนิติบุคคล, หรือ การขออนุญาตประกอบกิจการ
อีกทั้ง สำนักงานทนายความสรศักย์ เป็นที่ปรึกษากฎหมายธุรกิจชั้นนำที่ให้บริการด้านเอกสารบริษัทอย่างครบวงจรและครอบคลุมทุกมิติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการลงทะเบียนบริษัท การจัดการกฎหมายภายในองค์กร การแก้ไขข้อพิพาท และการป้องกันปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นกับธุรกิจ ด้วยทีมทนายความมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญทั้งในด้านกฎหมายแพ่งและกฎหมายคดีอาญา สำนักงานทนายความสรศักย์ พร้อมให้คำปรึกษา และการสนับสนุนทางกฎหมายอย่างเต็มรูปแบบเพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตและเฟื่องฟูอย่างยั่งยืน เรามีความพร้อม ความมุ่งมั่น ในการบริการด้านกฎหมายของประเทศไทย แก่ลูกค้าทุกคนโดยมืออาชีพ
ติดต่อที่ปรึกษากฎหมาย
บริษัท สำนักงานกฎหมายสรศักย์และที่ปรึกษาสากล จำกัด 49/78 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 40 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 10700
โทร: 081-692-2428, 094-879-5865
Facebook : บริษัท สำนักงานกฎหมายสรศักย์และที่ปรึกษาสากล จำกัด
Website: sorasaklaw.com
Line: @Sorasak